กฏเหล็ก 5 ข้อ ที่ได้จากช่วงชีวิตติดลบของมาร์ธา สจ๊วต

5 rule.jpg

     กฏเหล็ก 5 ข้อ ที่ได้จากช่วงชีวิตติดลบของมาร์ธา สจ๊วต คนเราทุกคนย่อมต้องมีช่วงวิกฤตของตัวเอง ช่วงเวลาที่ยากลำบาก ช่วงที่ต้องหาคำตอบของปัญหา ช่วงเวลาที่ผ่านพ้นวิกฤต และช่วงเวลาที่โล่งใจสุขใจหลังจากที่เมฆหมอกมรสุม ซึ่งแม้จะขึ้นต้นไม่สวยงาม แต่บทเรียนต่างๆ มักทำให้คนผู้นั้นเติบโตหรือได้เรียนรู้อะไรสักอย่าง สำหรับการใช้ชีวิตต่อในวันที่ฟ้าหลังฝน

     กูรูและนักธุรกิจด้านการจัดแต่งไลฟ์สไตล์ที่เรียกได้ว่าเป็นระดับเจ้าแม่อย่าง มาร์ธา สจ๊วต ก็มีช่วงเวลาเหล่านั้นเหมือนกัน และถึงขั้นเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกว่า เซเลบคนดังติดคุก 5 เดือน เมื่อปี 2004 ในข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการขายหุ้นจนตลาดหุ้นสหรัฐปั่นป่วนเมื่อปี 2001

     จากความคิดและการชดใช้ความผิดครั้งนั้นทำให้เธอได้เรียนรู้หลายสิ่ง สิ่งหนึ่งที่ค้นพบระหว่างที่ได้พบปะกับนักโทษหญิงคนอื่นๆ พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ได้ควบคุม หรือใช้ชีวิตของตัวเองเลย และต้องทนต้องสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างไม่ธรรมดา แต่ก็ยังต้องทำเป็นว่าแข็งแกร่ง ทั้งร่างกายและจิตใจ สจ๊วตนำเรื่องราวเหล่านี้และประสบการณ์อื่นๆ มาร้อยเรียงเป็นหนังสือ The Martha Rules ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2005  หลังจากที่เธอพ้นโทษออกมาได้ไม่นานนัก หัวข้อที่เด็ดที่สุดของเล่มนี้ หนีไม่พ้น “กฎเหล็กโดย มาร์ธา” ซึ่งเคี่ยวคั้นมาจากบทสนทนาที่กูรูได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ในที่แห่งนั้น ตกผลึกเป็นหัวข้อเชิงคำถามที่ชวนหวนคิดและแนะทางไปสู่การประสบความสำเร็จในสิ่งที่กำลังมุ่งมั่นตั้งใจทำ 

กฎ # 1 หาสิ่งที่รัก (ให้เจอ)                                                                

สจ๊วต ทำสิ่งที่รัก มุ่งมันกับมัน และผลักให้กลายเป็นธุรกิจ จนปัจจุบันชีวิตส่วนตัวกับการทำงานของเธอแทบจะเป็นอย่างเดียวกันอย่างแยกไม่ออก ลองค้นหาและทดลองใช้เวลากับสิ่งต่างๆ เพื่อหาความหลงใหล หรือ Passion ของตัวเองให้เจอ

กฎ # 2 มองต่างมุม เพื่อหาสาระสำคัญที่แท้จริง                                                      

สมมุติว่าต้องคิดงานให้ลูกค้า ให้คิดว่าตัวเองเป็นลูกค้า จะเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร และเมื่อสงสัยจะได้ถามคำถามที่ตรงประเด็น ได้สาระที่สำคัเพื่อให้ได้งานจะถูกใจลุกค้าอย่างแท้จริง

กฎ # 3 แบ่งปันและเชื่อมต่อ สร้างและจัดการ                                                        

ข้างต้น คือ หัวใจของผู้ประกอบการ สจ๊วต เขียนไว้ว่า “คุณใส่ใจลูกค้าอย่างเป็นธรรมชาติหรือไม่? ถ้าการทำเงินสำคัญมากกว่าความพึงพอใจและความจงรักภักดีต่อแบรนด์ของลูกค้า คุณอาจจะยังไม่เจอธุรกิจที่ใช่สำหรับตัวเอง” ที่เป็นเช่นนี้เพราะกำไรที่แท้จริงของผู้ประกอบการ คือ การส่งต่อข้อมูลและสร้างภาพระยะยาวแห่งความสุขและสดใสให้แก่ลูกค้า

กฎ # 4 เลือกเฉพาะคนที่ใช่                                                                  

ค้นหาและจ้างเฉพาะคนร่วมงานที่ใช่ ที่จะร่วมมือไปสู่เป้าหมายที่มีร่วมกัน เข้าใจและเคารพอย่างจริงๆ กับแผนการสำคัญของคุณ ใช้ความรู้สึกในการคัดคน และหารือกับทีมงานคุณภาพที่มีอยู่แล้ว 

กฎ # 5 เลือกสิ่งที่ดี คัดตัวเลือกแย่ทิ้ง สะสางสิ่งที่ค้างใจและเดินหน้าต่อ                                        

ควบคุมตัวเองให้ได้เมื่อต้องเผชิญสานการณ์ที่ท้าทายด้วยไหวพริบและความมุ่งมั่น เราสามารถเปลี่ยนเหตุการณ์ที่เหมือนหายนะให้เป็นชัยชนะได้

กฎ # 6 ประเมินความคุ้มของการได้และเสีย                                                          

เมื่อโอกาสมาอยู่ตรงหน้า สจ๊วต แนะว่ามันอาจจะไม่ใช่ที่ที่มาแล้วไม่คว้าก็ไปลับเสียทีเดียว ให้ใจเย็นๆ แล้วคิดคำนวณความเสี่ยงว่าคุ้มค่าพอไหม การประเมินตัวเองอย่างสม่ำเสมออาจจะช่วยให้เลือกหรือปัดโอกาสได้อย่างไม่ต้องลังเลนาน

เครดิต : M2F